การทำ SEO ยังจำเป็นอยู่อีกเหรอ (เรื่อง AI ที่คุณอาจไม่รู้)

ประโยคคำถามปลายเปิดที่พบเห็นบ่อย แต่พอเห็นคนขิงเรื่อง “SEO กำลังจะตายเพราะ AI” (ซึ่งจริงๆ ได้ยินมาร่วมทศวรรษแล้ว) บวกกับเรื่องตลกอย่างหนึ่ง คือ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า AI ทำงานอย่างไร แต่ละโมเดลแตกต่างกันอย่างไร

 

ก่อนอื่น ChatGPT-4 ตอบหน่อย

เริ่มจาก SEO ยังจำเป็นอยู่อีกเหรอ ?

seo ถูกแทนที่ด้วย AI

ChatGPT แทนที่ SEO ได้ไหม ?

ChatGPT ไม่สามารถแทนที่ SEO (Search Engine Optimization) ได้เสียงเต็ม แต่ ChatGPT สามารถเป็นเครื่องมือช่วยในการดำเนินกิจกรรม SEO และเพิ่มประสิทธิภาพในงานของคุณ ตัวอย่างการใช้ ChatGPT สำหรับ SEO ได้แก่:

  1. การสร้างเนื้อหาคุณภาพ: ChatGPT สามารถช่วยคุณสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญใน SEO การมีเนื้อหาที่ดีทำให้เว็บไซต์ของคุณน่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบของเครื่องมือค้นหา
  2. การวิเคราะห์คำหลัก: ChatGPT สามารถช่วยคุณในการค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์สำหรับเว็บไซต์ของคุณ นำไปใช้ในการปรับปรุงเนื้อหาและการตั้งชื่อแท็ก
  3. การแนะนำเทคนิค SEO: ChatGPT สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิค SEO ใหม่ ๆ หรือวิธีการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา

อย่างไรก็ตาม ควรระลึกว่า ChatGPT เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการทำ SEO คุณยังคงต้องมีความเข้าใจในเทคนิคและกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับ SEO และปรับใช้กับธุรกิจของคุณเองเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สูงที่สุด

 

ฟัง GPT อธิบายค่อยสบายใจขึ้น (เหรอ ?)

… เดี๋ยวๆ แล้วถ้าคนเลิกใช้ Google ล่ะ ?

 

GPT ฉลาดมาก หาคำตอบมาให้ดีกว่า Search Engine

อันนี้เห็นด้วย 100% เลือกข้อมูลได้แม่นยำมาก

แม่นกว่า AI ของ Search Engine ที่พยายามคัดคำตอบอีก

 

(ต่อ) แล้ว GPT ไปเอาข้อมูลมาจากไหน ?

ก็ Search Engine นั่นแหละ (ทึ่งโป๊ะ)

 

(ต่อ) แล้วถ้าไม่มี Search Engine ?

Chatbot ก็ทำอะไรต่อไม่ได้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไม่ได้หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่งนะคุณผู้ชม

 

บางคนอาจเข้าใจแล้วว่า ทำไม Microsoft ถึงรีบซื้อ GPT โดยเร็ว

❌ เอา GPT ไปฆ่า Google

✔️ เพิ่มโอกาสให้ Bing ต่อกรกับ Google ได้

ถือเป็นความคิดที่ฉลาด เพราะถ้า GPT อยู่โดดเดี่ยวต่อไป Google แค่บล็อกไม่ให้บ็อตของ GPT หาข้อมูล Search ฝั่งตนได้ ก็อาจจบเห่ได้เหมือนกัน

แต่โลกนี้ ยังมี Search Engine หลายตัว เพียงแต่สิบกว่าเจ้ารวมกันยังไม่ถึง 10% ส่วนแบ่งของ Google

 

อธิบายอีกที

พวก AI ทั้งหลายรู้ได้อย่างไร นอกจากเทรนแล้ว ยังมีบอทถูกส่งไปเก็บข้อมูลตามเว็บต่างๆ

แน่นอนว่า คัดกรองเว็บมาแล้ว ข้อมูลโอกาสถูกค่อนข้างสูง

และยังคงมีความแม่นยำต่อไป ถ้าจำกัดเวลาไว้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง อย่างต้นปี 2023 ก็ลิมิตความรู้ไว้ช่วงปี 2021-2022

แต่ถ้าอยากได้ความรู้แบบเรียลไทม์ ก็ต้องเพิ่งพา Search ในการหาข้อมูลเบื้องต้น นำมาวิเคราะห์อีกที

กล่าว คือ AI ของ Chatbot ต้องจับมือกับ AI ของ Search ถึงจะอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Google เริ่มพัฒนา Bard และ Magi มาสู้

 

สรุป

ตระหนัก แต่ อย่าตระหนก

ยุคสมัยใหม่กำลังจะมา SEO เสี่ยงจะตายอีกรอบ ซึ่งผ่านประสบการณ์เฉียดมาหลายสมัย อย่างเช่น

  • Search ของ FB หาข้อมูลผ่าน FB ได้ จะเข้า Google ทำไม … แต่สุดท้ายก็สะดุดขาตัวเอง ผ่านไปสิบปีก็ยัง Search ข้อมูลได้มั่วไม่ได้ดีกว่าเดิม
  • Search ของ YT หลายอย่างหาได้ใน Youtube แต่ไม่ทุกอย่าง
  • Tiktok, Reel, YT Shot หลายอย่างหาได้ในติ๊กต๊อกโดยเฉพาะพวก How to … แต่ถึงได้ส่วนแบ่งไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คำตอบที่ต้องการอยู่ดี

Chatbot เหมือนเป็น Challenge ใหม่ ที่น่าจะหนักกว่าที่ผ่านมาหลายยุค ดูจาก Midjourney, Dall-E ก็เห็นว่าพัฒนาเร็วขนาดไหน ไม่กระจอกเหมือนโซเชียลหลายเจ้าที่ผ่านมาที่โค่นการ Search ไม่ได้สักที

แต่ตราบใดที่ AI ยังไม่สามารถสร้างเนื้อหาที่สมบูรณ์ เทียบเท่าหรือเหนือกว่า คอนเทนต์ที่มี E-E-A-T ก็คงผ่านจุดนั้นไปไม่ได้

สุดท้าย นัก SEO จะตกงานหรือไม่ คงต้องขึ้นกับความเข้าใจด้วยว่าขอบเขตงานของ SEO มีอะไรบ้าง ถ้าแบบไทยแท้ที่เข้าว่าทำงานแค่ไต่อันดัน อันนั้นตายชัวร์ แต่ตามรายละเอียดงานสากล นัก SEO ก็เหมือนสายคอนเทนต์ สายการตลาด สายเทคนิค สายไอที รวมกัน ความสามารถรอบด้าน โอกาสรอดในวงการค่อนข้างสูง

ตราบใดที่คุณค้นหาคีย์เวิร์ด โดยเฉพาะพวก Long Tail Keyword แล้วยังเจอ Blog ใน 10 อันดับแรก โอกาสตกงานก็ต่ำครับ

ส่วนประเภทที่ว่า “ผมทำ SEO แทบตาย ไม่เห็นอันดับขึ้นสักที” ก็ต้องไปดูว่าคุณทำเรื่องอะไร วิเคราะห์คีย์เวิร์ดลึกพอหรือไม่ ธุรกิจเกี่ยวกับอะไร คู่แข่งโหดแค่ไหน เข้าใจ Core Algorithm แค่ไหน ฯลฯ ไม่ใช่ยุคที่นั่งแปะ Backlink เยอะๆ แล้วจะอยู่ที่ 1 ในการค้นหาได้ ต้องทำอะไรมากกว่านั้น พัฒนาตัวเองมากกว่านั้น ถึงจะอยู่รอดในวงการ

Scroll to Top